ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ผลิตภัณฑ์อยู่ไฟ
dot
bulletSetอยู่ไฟราคาพิเศษ (16)
bulletSetอยู่ไฟ 30 วัน (5)
bulletSetอยู่ไฟ 15 วัน (3)
bulletSetอบตัวเพื่อสุขภาพ (8)
bulletตู้อบ&อุปกรณ์อบตัว (5)
bulletกระโจม&อุปกรณ์อบตัว (7)
bulletผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นๆ (11)
dot
ชุดเข็มขัดอยู่ไฟ ตราไก่ดาว
dot
bulletวิธีการใช้ชุดเข็มขัดอยู่ไฟ
bulletวิธีประกอบตู้อบสมุนไพร
bulletประโยชน์ของชุดเข็มขัดอยู่ไฟ
bulletประโยชน์ของการอบสมุนไพร
bulletเริ่มอยู่ไฟได้เมื่อไหร่
bulletออกงานแสดงที่เมืองทองธานี
bulletร้านตัวแทนจำหน่ายชุดอยู่ไฟ
dot
มุมสาระความรู้
dot
bulletคุณแม่ยุคใหม่ฟื้นอยู่ไฟหลังคลอด
bulletอบสมุนไพรล้างพิษ
bulletอยู่ไฟเพื่อแม่หลังคลอด
bulletริดสีดวงทวารกับการตั้งครรภ์
bulletการดูแลสุขภาพในช่องปาก
bulletเคล็ดลับการกล่อมเด็กนอน
bulletเทคนิคสร้างลูกฉลาดตั้งแต่ในท้อง
bulletอาการเเรกเริ่มของการตั้งครรภ์
bulletบริหารร่างกายระหว่างตั้งครรภ์
bulletข้อปฏิบัติขณะตั้งครรภ์
bullet5 ภัยไฮเทคที่แม่ตั้งท้องต้องระวัง
bulletอาหารหลังคลอด
bulletขนาดท้อง (แม่) เรื่องน่ารู้
bulletทารกแรกเกิดชอบมองอะไร
bulletลูกเล็กมีไข้จัดการอย่างไร
bulletกินอย่างไรช่วงตั้งครรภ์
bullet“ฉี่” กับ “อึ” ของทารก
bulletเทคนิคให้นมลูกได้นาน
bulletอาหารบรรเทา อาการแพ้ท้อง
bulletความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สร้างได้ในการเรียนรู้ภาษาของทารก
bulletคุณแม่ตั้งครรภ์ควรนอนท่าไหน
bulletบำรุงสายตา...ช่วงตั้งครรภ์
bulletสิ่งที่ควรรู้ในระหว่างตั้งครรภ์


ชุดอยู่ไฟ ขายดี
กระโจม 2 ชั้น ลายไทย
กระโจมอยู่ไฟ
ตู้อบสมุนไพร
ตู้อบสมุนไพร 2 ชั้น
เข็มขัดอยู่ไฟ


เทคนิคสร้างลูกฉลาดตั้งแต่ในท้อง

  คุณแม่ทุกท่านย่อมต้องการให้ลูกที่เกิดมาเป็นเด็กฉลาดทั้งทางสติปัญญาและอารมณ์ ถึงแม้ว่าเรื่องของกรรมพันธุ์จะเป็นปัจจัยหนึ่งต่อความเฉลียวฉลาดของลูก แต่ก็ยังมีเรื่องของอาหารของคุณแม่ตั้งแต่ขณะ ตั้งครรภ์และของลูกภายหลังคลอด รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็กขณะที่อยู่ในท้องและภายหลังคลอด ก็เป็นส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของสมองและอารมณ์ของลูกอย่างต่อเนื่องค่ะ

ลูกเป็นอย่างไร ในแต่ละช่วง
ช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงของการเริ่มต้นสร้างอวัยวะ กล้ามเนื้อต่างๆ และเซลล์ประสาทของลูกน้อย ช่วงนี้คุณแม่จะต้องดูแลเรื่องอาหาร ยา และหลีกเลี่ยงสารพิษ เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 ทารกจะมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกที่มากระทบได้แล้ว ลูกจะดิ้นไปมาอยู่ในท้อง แต่แม่จะยัง ไม่ค่อยรู้สึกเพราะขนาดตัวของลูกยังเล็กมาก

 ช่วง 4-6 เดือนของการตั้งครรภ์ ประสาทสัมผัสทางการได้ยินเริ่มพัฒนา ทารก จะเริ่มได้ยินเสียงหัวใจและเสียงของแม่ จำนวนเซลล์ของระบบประสาทเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทารกเริ่มจดจำเสียงของคุณแม่ได้ และยังมีการเชื่อมต่อระหว่างระบบประสาทกับระบบกล้ามเนื้อ ทารกสามารถเคลื่อนไหวแขนและขาตามจังหวะของ ข้อพับ กำมือ ยืดตัว หรือพลิกตัวได้แล้ว

 ช่วง 7-9 เดือนของการตั้งครรภ์ เมื่อลูกรู้สึกว่าภายนอก มีเสียงดัง หรือหากคุณแม่กินอาหารผิดเวลา ลูกจะสื่อความต้องการ หรือตอบโต้ด้วยการดิ้น เตะ ถีบ ระบบประสาทในการมองเห็นพัฒนา รูม่านตาจะเริ่มขยายหรือหรี่ได้ แม้จะอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ทารกก็สามารถรับรู้ต่อแสง ความมืด ความสว่างได้ และสมองของทารกช่วงนี้ เป็นระยะที่มีการขยายตัวของเซลล์และรอยหยักมากขึ้น เด็กจะมีความจำมากขึ้น

ส่งเสริม 4 พัฒนาการให้ลูกในท้อง
ขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ ระบบประสาทส่วนต่างๆ ของลูกเริ่มทำงาน สามารถรับรู้และตอบสนองกับสิ่งกระตุ้นจากภายนอกท้องแม่ได้ โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ 4 เดือนไปแล้ว คุณแม่และคุณพ่อจึงสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ ดังนี้

1. ด้าน อารมณ์
คุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ) ในทางตรงกันข้าม คนที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย จะทำให้ลูกคลอดออกมาเป็นเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า ดังนั้นระหว่างตั้งครรภ์ควรปรับอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ ไม่เครียด อาจฟังเพลงหรืออ่านหนังสือเพื่อช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์

2. ด้าน การมอง
ออก ไปยืนรับแสงแดดอ่อนๆ นอกบ้านช่วงเช้าหรือบ่าย ควรเลือกแสงที่มีความสว่างไม่จ้าจนเกินไป นอกจากนี้ การใช้ไฟฉายส่องที่หน้าท้องก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาท ส่วนรับภาพและ การมองเห็นของทารกมีพัฒนาการดีขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับ การ มองเห็นภายหลังคลอด

3. ด้าน การได้ยิน
หมั่น พูดคุยกับลูกในท้องบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ใช้ประโยคซ้ำๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียม พร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด

 

นอกจากนี้ การร้องหรือเปิดเพลงให้ลูกฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะเพลง ที่มีความไพเราะและคุณแม่ชอบฟัง ซึ่งการใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้ การได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น ช่วงเวลาที่เหมาะในการฟังเพลง ควรเป็นช่วงหลังมื้ออาหาร เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกตื่นตัวมากที่สุด ควรเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในท้องจะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินมีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เมื่อลูกคลอดออกมาจะมีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดี

4. ด้าน การสัมผัส
การลูบไล้หน้าท้องบ่อยๆ จะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น คุณแม่ควรลูบหน้าท้องเป็นวงกลมจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้ โดยขณะที่สัมผัสอาจร้องเพลงหรือพูดคุย ไปด้วย ยิ่งถ้าทำในช่วงเวลาเดิมเป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าเมื่อถึงช่วงเวลานั้น ลูกจะดิ้นรออยู่แล้ว

 

นอกจากการลูบไล้หน้าท้องแล้วการออกกำลังกายเบาๆ หรือการเดินเล่น จะทำให้ลูกในท้องมีการเคลื่อนไหว ตามไปด้วย และผิวกายของลูกจะไปกระแทกกับผนังด้านในของมดลูก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกให้พัฒนาได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องค่ะ

ขอบคุณ : คุณกนกกาญจน์ ปานเปรม , นิตยสาร Mother&Care

 







ชุดเข็มขัดอยู่ไฟ ชุดอยู่ไฟ กระโจมอบสมุนไพร ตู้อบสมุนไพร และสมุนไพรเพื่อสุขภาพ สำหรับคุณแม่หลังคลอด ร้านอยู่ไฟไก่ดาว

 

 


ตู้อบสมุนไพร กระโจมอบตัว สมุนไพรอบตัว ชุดเข็มขัดอยู่ไฟ ร้านอยู่ไฟไก่ดาว 69/5 ต.ตลาด อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74110

ติดต่อ กังสดาล 081-6347716 , 081-6168859 , 034-471281 Line ID : 1kaidaow , kaidaow1

ทะเบียนพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์เลขที่ 3102300225763

อยู่ไฟ,การอยู่ไฟ,ชุดอยู่ไฟ,อยู่ไฟหลังคลอด,กระโจมอบตัว,ตู้อบสมุนไพร,สมุนไพรอยู่ไฟ,อยู่ไฟผ่าคลอด,อยู่ไฟด้วยตัวเอง